วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561

งานเข้า iPhone XS และ XS Max ถูกรายงานปัญหาการเชื่อมต่อ Cellular และ Wi-Fi ไม่ได้ !!


Apple เริ่มวางจำหน่าย iPhone อย่างเป็นทางการในกลุ่มประเทศแรกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเหมือน Apple จะมีงานเข้าแล้วหลังจากมีสมาชิกรายหนึ่งใน Redit และมีผู้ไปร้องเรียน Apple Support เกี่ยวกับปัญหาการเชื่อมต่อที่เกิดขึ้นทั้งใน iPhone XS และ iPhone XS Max
iPhone XS
ซึ่งการรายงานบน Apple Support รายงานเกี่ยวกับการรับสัญญาณ Wi-Fi ที่คลื่นความถี่ 5 GHz โดยผู้ใช้รายนี้ เผยว่า iPhone 7 Plus และ iPad Pro 2017 สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi  ได้ปกติ แต่ iPhone XS นั้นไม่สามารถเชื่อมต่อได้ จนต้องสลับมาใช้ความถี่ 2.4 GHz
ส่วนอีกรายงานของผู้ใช้บน Reddit  รายงานถึงปัญหาการเชื่อมต่อสัญญาณ Cellular ว่า iPhone 8 Plus ของเขามีสัญญาณขึ้นมา 2 ขีด แต่ใน iPhone XS Max เครื่องใหม่ของเขา กลับหาสัญญาณไม่เจอเลย หรือเจอสัญาณก็ขึ้นเพียง 1 เท่านั้น
ซึ่งสื่อต่างประเทศอย่าง WiWavelength วิเคราะห์ว่าปัญหานี้เกิดจากอุปกรณ์เสารับสัญญาณ แต่ก็คาดว่าทาง Apple จะแก้ปัญหานี้ด้วยการปล่อยvyrgfm ซอฟท์แวร์ผ่าน iOS เพื่อแก้ปัญหานี้
อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้เห็นประกาศอย่างเป็นทางการจาก Apple แต่อย่างใดต้องรอกติดตามกันต่อไป ว่า Apple จะแก้ปัญหานี้แบบใด



สื่อนอกเผย ต้นทุนชิ้นส่วน iPhone XS Max รุ่น 256GB อยู่ที่ 14,300 บาท

หลังจากที่ Apple ได้เริ่มขาย iPhone XS และ iPhone XS Max มาจะครบ 1 สัปดาห์ไปแล้วนะครับ ล่าสุดสื่อต่างประเทศอย่าง Techinsights ได้นำ iPhone XS Max มาชำแหล่ะ และวิเคราะห์ราคาของชิ้นส่วนต่างๆ ออกมา
ซึ่ง iPhone XS Max ที่นำมาชำแหละ เป็นรหัสโมเดล A1921 ขนาดความจำภายใน 256GB พบว่าหน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว มีราคาอยู่ 80.50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,600 บาท เป็นชิ้นส่วนที่มีราคาสูงที่สุด ใน iPhone XS Max และชิ้นส่วนที่ราคาถูกที่สุดคือแบตเตอรี่มีราคา 9 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 290 บาท
จากภาพรวม ราคาของต้นทุนชิ้นส่วนของ iPhone XS นั้นมีมูลค่าอยู่ที่ 443 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,300 บาท ซึ่งสูงกว่า ราคาต้นทุนชิ้นส่วนของ iPhone X ที่มีราคาต้นทุนชิ้นส่วนอยู่ที่ 395.44 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12,800 บาท

DJI เปิดตัว Mavic 2 Pro และ Mavic 2 Zoom โดรนใหม่ 2 รุ่น พร้อมขายในประเทศไทยแล้ว

DJI Mavic 2 Mavic 2 Pro Mavic 2 Zoom กล้องโดรน
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีระยะเวลาบินที่น่าประทับใจโดยบินได้นานสูงสุดถึง 31 นาที พร้อมมีระบบสื่อสารข้อมูลและถ่ายทอดสดวีดีโอที่มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น Mavic 2 จึงสามารถมอบประสบการณ์การบินที่ยอดเยี่ยม และมีสมรรถนะพร้อมให้คุณบันทึกภาพที่ยอดเยี่ยมได้เช่นกัน
Mavic 2 Pro คุณภาพภาพที่เหนือกว่าด้วยกล้อง Hasselblad
จากการพัฒนาและออกแบบร่วมกับ Hasselblad ผู้นำระดับโลกด้านการถ่ายภาพด้วยกล้องเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่แบบ Medium Format ทำให้ Mavic 2 Pro เป็นโดรนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกล้องสุดยอดเยี่ยม
ซึ่งสามารถมอบคุณภาพภาพได้เหนือกว่ากล้องโดรนโดยทั่วไป โดดเด่นด้วยการบันทึกแสงสีที่มีความคมชัดสูง และประมวลผลภาพด้วยเซ็นเซอร์ CMOS ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว พร้อมรองรับโปรไฟล์สีแบบ 10-bit Dlog-M ซึ่งแยกความแตกต่างของสีได้มากกว่าถึง 4 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ Mavic Pro
Mavic 2 Pro
ทำให้มีอิสระสูงสุดในการปรับแต่งภาพและวีดีโอในภายหลัง ทั้งนี้ Mavic 2 Pro สามารถบันทึกภาพนิ่งได้ที่ความละเอียดถึง 20 ล้านพิกเซล และพิเศษด้วยการมีเทคโนโลยี Hasselblad’s Natural Color Solution (HNCS) ซึ่งมอบความแม่นยำสูงสุดในการบันทึกสี จนได้ภาพที่คมชัด สวยสมจริง
พร้อมกันนี้ยังสามารถปรับรูรับแสงได้ ตั้งแต่ f/2.8 -f/11 เอื้อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการถ่ายภาพได้อย่างเหมาะสมในทุกระดับแสง ด้านวิดีโอนั้น สามารถบันทึกได้ที่ความคมชัดระดับ 4K พร้อมมีความละเอียดสูงแบบ 10-bit HDR นอกจากนี้ Mavic 2 Pro ยัง สามารถเชื่อมต่อกับทีวี 4K ที่รองรับเทคโนโลยี HLG เพื่อเล่นวิดีโอได้ทันที โดยไม่มีปัญหาสีผิดเพี้ยน
Mavic 2 Zoom หลากมิติมุมมอง จากออปติคัลซูมและดิจิตอลซูม
นอกจากขุมพลังในการประมวลผลภาพด้วยเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด ½.3 นิ้วแล้ว Mavic 2 Zoom ยังโดดเด่นจากการเป็นโดรนแบบพับเก็บได้สำหรับบุคคลทั่วไปตัวแรกของ DJI ที่มาพร้อมกล้องซูมได้ จึงสามารถมอบมุมภาพในมิติที่หลากหลาย และพร้อมนำเข้าสู่ยุคใหม่ในการเล่าเรื่องเชิงสร้างสรรค์
โดย Mavic 2 Zoom จะขยับมุมมองเข้าใกล้วัตถุที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็ว ด้วยสมรรถนะของระบบออปติคอลซูมที่มีกำลังขยายถึง 2 เท่า พร้อมมีระยะทางยาวเลนส์ขนาด 24-48 มม. ทั้งนี้ในระบบดิจิตอลซูม ยังสามารถจำลองเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ขนาด 96 มม. ทำให้บันทึกภาพวีดีโอที่คมชัดแบบ Full HD ได้โดยไม่สูญเสียข้อมูลความละเอียดDJI (ดีเจไอ) ผู้นำระดับโลกด้านโดรนพลเรือนและเทคโนโลยีการถ่ายภาพทางอากาศ เปิดมิติใหม่ของโดรนติดกล้อง ด้วย 2 รุ่นล่าสุดจาก Mavic Series (มาวิค ซีรี่ย์) ได้แก่ Mavic 2 Pro (มาวิค ทู โปร) โดรนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมกล้องระดับมืออาชีพ Hasselblad (ฮัดเซลแบลด) และ Mavic 2 Zoom (มาวิค ทู ซูม)
โดรนพลเรือนแบบพับเก็บได้รุ่นแรกของโลก ที่มาพร้อมกล้องฟังก์ชั่นออปติคอลซูม Mavic 2 มีกล้องโดรนที่ล้ำสมัยที่สุด ออกแบบเพื่อช่างภาพอาชีพ นักถ่ายภาพทางอากาศ และผู้สร้างคอนเทนต์โดยเฉพาะ ผสมผสานดีไซน์แบบสามารถพับเก็บได้จากรุ่น Mavic Pro ( มาวิค โปร) ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก
โดย Mavic 2 นั้นเป็นแพลตฟอร์มทรงพลัง ตัวกล้องควบคุมด้วยกิมบอลกันสั่นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งมอบความเสถียรสูง และมีหลากฟีเจอร์อัจฉริยะ เช่น Hyperlapse (ไฮเปอร์แลปส์) และ ActiveTrack (แอคทีฟแทร็ค) เอื้อให้เล่าเรื่องผ่านเลนส์กล้องโดรนได้อย่างน่าตื่นเต้นกว่าที่เคย

เปิดตัว แอป MEA EV ชวนคนกรุงฯหันมาใช้ รถยนต์ไฟฟ้า วางเป้าสำเร็จในปี ’79

ตอนเด็กๆ ดูหนัง Sci-fi แล้วเห็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเป็นอะไรที่คูลและไฮเทคมาก ก็ได้แต่ฝันว่าสักวันต้องมีรถแบบนี้วิ่งตามท้องถนนคงจะดี วันนี้ความฝันของเด็กน้อยคนนั้นใกล้เข้ามาอีกก้าว เมื่อ กฟนเปิดตัว แอป MEA EV เพื่อเป็นตัวกลางควบคุมจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า นี่คือก้าวสำคัญในการผลักดันให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้รวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคัน ภายในปี พ.. 2579

แอป MEA EV ชวนคนกรุงฯ หันมาใช้ รถยนต์ไฟฟ้า

โดยเจ้า แอป MEA EV ถูกพัฒนาให้ใช้งานสะดวกสบายบนสมาร์ทโฟน ซึ่งจะคอยช่วยเรา ค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า / นำทางไปยังสถานีชาร์จ / จองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ /  ควบคุมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชัน / การแจ้งข้อมูลประวัติการชาร์จ / คำนวณอัตราการประหยัดพลังงาน รวมถึงฟังชั่นอื่นๆ ที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต
ค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้า นำทางไปยังสถานีชาร์จ
หลายๆ คน กำลังคิดว่า สถานีอัดประจุไฟฟ้า นั้นหายากมาก เพราะทุกวันนี้ผ่านไปผ่านมาแทบไม่เห็นเลย แต่ แอป MEA EV ไม่ได้บอกอย่างนั้น เมื่อเข้าแอปไปแล้วก็จะขึ้นแสดง สถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเราสามารถ เลือกไปที่ เส้นทาง  แอป MEA EV ก็จะนำทางไปยังสถานีชาร์จได้เลยตอนเด็กๆ ดูหนัง Sci-fi แล้วเห็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเป็นอะไรที่คูลและไฮเทคมาก ก็ได้แต่ฝันว่าสักวันต้องมีรถแบบนี้วิ่งตามท้องถนนคงจะดี วันนี้ความฝันของเด็กน้อยคนนั้นใกล้เข้ามาอีกก้าว เมื่อ กฟนเปิดตัว แอป MEA EV เพื่อเป็นตัวกลางควบคุมจัดการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า นี่คือก้าวสำคัญในการผลักดันให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้รวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคัน ภายในปี พ.. 2579

ที่สำคัญใน แอป MEA EV ยังบอกข้อมูลการเติมพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของเรา ซึ่งจะถูกนำไปคำนวณต่อว่าการที่เราหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยลดปริมาณ คาร์บอนไดออกไซด์ ลงไปเท่าไหร่? และจำนวนต้นไม้ที่จะถูกทดแทน เพื่อช่วยรักษาทรัพยากรของโลกhttps://tech.mthai.com/software/92506.html

หนุ่มออสซี่ดวงซวย ซื้อ iPhone Xs Max เปิดเครื่องมาเจอปัญหาหน้าจอมีขีดสีเขียว

Phone Xs และ iPhone Xs Max เพิ่งจะวางขายไปหมาดๆในกลุ่มประเทศแรกเมื่อไม่นานมานี้ และเสียงตอบรับค่อนข้างดีมากโดยยังคงมีผู้คนไปต่อแถวรอซื้อ iPhone รุ่นใหม่อย่างยาวเหยียด แต่ดูเหมือนว่า iPhone Xs Max จะเกิดปัญหาขึ้นซะแล้ว
หลังจากที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวออสเตรเลียชื่อ Musthafa Ali โพสต์ภาพ iPhone Xs Max ที่เพิ่งจะซื้อมาเกิดปัญหามีเส้นสีเขียวปรากฏที่หน้าจอ ซึ่งปัญหานี้เคยเกิดกับ iPhone X รุ่นก่อนหน้าที่เป็นจอ OLED เช่นกัน โดยปัญหานี้เกิดกับ iPhone บางเครื่องเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้จบลงด้วยการที่ Apple ได้ทำการเปลี่ยนเครื่อง iPhone Xs Max ให้หนุ่มรายนี้ใหม่เพราะปัญหานี้เกิดจากปัญหาในการผลิต ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสินค้าไอที ดังนั้นผู้ซื้อต้องตรวจสอบเครื่องที่ซื้อมาก่อนจะดีที่สุด

iPhone XS Max จะขายดีกว่ารุ่น XS ถึง 4 เท่า ความจุ 256GB สีทองขายดีสุด

นาย Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก KGI Securities ผู้ที่มักเปิดเผยข้อมูลของ Apple ได้อย่างแม่นยำ ได้ออกมาวิเคราะห์ยอดขายของ iPhone XS Max ว่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีกว่า iPhone XS มากถึง 3-4 เท่าตัว
โดยรุ่นที่ขายดีที่สุดจะเป็น iPhone XS Max รุ่นความจุ 256GB และไอโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมสีทองแบบใหม่ จะเป็นสีที่ขายดีมากที่สุดด้วย
ส่วนรุ่นหน่วยความจำ 512GB ซึ่งเป็นความจุใหม่ที่มากที่สุดเท่าที่ไอโฟนเคยมีมา (เช่นเดียวกับราคา) จะพบปัญหาของขาดตลาดเนื่องจากซัมซุง ผู้ผลิตชิป NAND Flash นั้นผลิตให้ไม่ทันนั่นเอง
apple iphone iPhone Xs Max smartphone มือถือ

หลุดสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกมาพร้อม RAM 10GB คือ Oppo Find X รุ่นใหม่

RAM หรือหน่วยความจำชั่วคราวของอุปกรณ์ไอที ที่ปัจจุบันบนสมาร์ทโฟนมี RAM อย่างมากที่สุดก็ 8GB แต่ล่าสุดออปโป้มีข่าวว่าจะเปิดตัว Oppo Find X รุ่นใหม่ ที่ใส่ RAM มาให้เยอะถึง 10GB !!
หลุดสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกมาพร้อม RAM 10GB คือ Oppo Find X รุ่นใหม่
Oppo Find X สมาร์ทโฟนตัวท็อปจากออปโป้ที่เปิดตัวไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดมีข่าวว่าออปโป้เตรียมจับ Find X มาโมใหม่ ใส่ RAM เพิ่มแบบจัดเต็มที่ 10GB ซึ่งจะทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกในโลกที่ใส่ RAM เยอะขนาดนี้
ซึ่งข่าวนี้ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงด้วยครับ เพราะ TENAA หน่วยงานตรวจสอบคุณภาพสมาร์ทโฟนของจีนพบข้อมูลการทดสอบ Oppo Find X รุ่น RAM 10GB นี้จริง โดยจะมาพร้อมกับความจำภายใน 256GB อีกด้วย ใครกำลังสนใจรุ่นนี้อยู่ สนใจจะรออีกนิดแล้วสอยตัว 10GB ตัวแรกของโลกบ้างมั้ยครับ ^^

งานเข้า iPhone XS และ XS Max ถูกรายงานปัญหาการเชื่อมต่อ Cellular และ Wi-Fi ไม่ได้ !! Apple เริ่มวางจำหน่าย iPhone อย่างเป็นทางการในกลุ...